โดยคุณภทร แห่งเวบ thaibadminton.com
เส้นเอ็นของคนเราจัดเป็นโครงสร้างที่เรียกว่า โพลี่แซคคาไรด์เปปไทด์ หรือ กลัยโคอะมิเปปไทด์ ครับ.....ง่ายๆก็คือเป็นโครงสร้างที่ประกอบด้วยสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนและโปรตีนโมเลกุลใหญ่
ส่วน collagen นั้นเป็นโครงสร้างประเภทโพลี่แซคคาไรด์เปปไทด์อย่างหนึ่งที่รวมตัวกันอยู่เฉพาะในชั้นหนังแท้และเนื้อเยื่อค้ำจุนใต้ผิวหนัง
collagen ที่ทำมาขายเป็นอาหารเสริมประเภทต่างๆ ร่างกายไม่สามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบสร้างเป็นเส้นเอ็นได้ครับ อีกอย่างพวกนี้เป็นสารที่มีโมเลกุลใหญ่มาก เซลล์เยื่อบุผิวของลำไส้เล็กดูดซึมได้ยากมาก แพงก็แพง อ้อ ! อีกอย่างเวลาที่รางกายจะเอาสารเสริมอาหารพวกนี้ไปสร้างเป็น collagen ได้ยังจะต้องมีสมัครพรรคพวกหรือทีมวิร์คตามไปด้วย เรียกว่าต้องมี 4 ตัวหาม 3 ตัวแห่ และแตรนำหน้า ซึ่งได้แก่ วิตามินบี 1 บี 3 บี 6 บี 12 และ แร่ธาตุแคลเซี่ยม แมกนีเซียม ทองแดง ส่วนแตรนำหน้าคือ กลัยโคเจนครับ
ขอนำเอาเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเส้นเอ็น และการดูแล บำรุง รักษา ฟื้นฟูเส้นเอ็นต่างๆของร่างกายคนเราด้วยวิธีการพึ่งพาตนเองในทางธรรมชาติบำบัดสำหรับผู้ที่มีปัญหาอยู่ควรนำไปพิจารณาดู จะใช้ควบคู่ไปกับการรักษาแบบการแพทย์แผนปัจจุบัน (ซึ่งเป็นการรักษาตามอาการซะเป็นส่วนใหญ่ เขาเรียกกันว่ารักษาเอาไว้ ไม่ใช่รักษาให้หาย นะครับ) ก็ได้ ไม่ตีกัน ไม่ขัดกันหรอก เราจะเน้นที่การบำรุงฟื้นฟู เสริมสร้าง ปรับสภาพของเส้นเอ็นให้แข็งแรงตามแต่ธรรมชาติที่เขาควรจะเป็นให้มากที่สุด มีอยู่ 3 วิธีครับ.............
1. ขั้นแรกสุดเลย ท่านควรจะต้องทำการปรับจัดโครงสร้างของเส้นเอ็นให้เข้าที่ เข้าทาง เข้าล็อคตามสภาพโดยธรรมชาติของเขาเสียก่อน เป็นประการสำคัญที่สุด โดยใช้วิธีการที่เรียกว่า ดุลยภาพบำบัด ไคโรแพรกติค หรือกายภาพบำบัดเฉพาะทาง แต่ในเมืองไทยเราจะหายากสักหน่อย หรือเราอาจดัดแปลงมาใช้วิธีการแบบภูมิปัญญาตะวันออก หมอแผนโบราณ ไทย จีน แขก เขมร พม่า ฯ ที่มีความเชี่ยวชาญชำนาญในการจัดปรับโครงสร้างของร่างกายให้สมดุลเข้าที่ นวดปรับเส้น จับเส้น จัดเส้น เขี่ยเส้น กัวซา เคาะเส้น ย้ายเส้น ฯลฯ มีเยอะแยะตามสื่อต่างๆในปัจจุบัน แต่ท่านก็ต้องเลือกเฟ้นดูดีๆ ให้มั่นใจเสียก่อน เน้นย้ำไว้เลยนะครับว่าควรเป็นของแท้ที่มีความเชี่ยวชาญชำนาญจริงๆและเราเองต้องเกิดความศรัทธาในตัวเขาและวิธีการที่เขาจะช่วยบำบัดให้เราด้วย
ข้อนี้สำคัญมากนะครับ ต้องทำก่อนเลย ข้ออื่นๆที่เหลือแค่มาช่วยเสริมเท่านั้น ไม่งั้นเส้นเอ็นมันก็เดี้ยงเรื้อรังไปเรื่อยๆอยู่อย่างนั้นแหละ ก็มันพูดไม่เป็น แล้วก็เมลล์มาบอกเราไม่ได้นี่นา
2. การบำรุง ฟื้นฟูเส้นเอ็น อันนี้ตรงตัวที่สุดครับ
โครงสร้างร่างกายของคนเราที่เจริญเติบใหญ่ เป็นตัวเป็นตนมาเล่นแบดได้ในทุกวันนี้เกิดจากอาหารที่เรากินเข้าไปแล้วก็กลายมาเป็นอวัยวะ โครงสร้าง เนื้อเยื่อ เส้นเอ็นของตัวเรา แล้วพอรู้กันหรือไม่ว่า อาหารอะไรเอ่ยที่ทำให้เส้นเอ็น ของคนเราแข็งแรงมากที่สุด คำตอบ คือ ข้าวกล้อง ครับ รองลงมาก็คือ เม็ดบัว ลูกเดือย และถั่วเม็ดแห้งประเภทต่างๆตามลำดับ สิ่งที่นำมาเอ่ยอ้างต่างๆเหล่านี้มีงานวิจัยทางโภชนาการยืนยันเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นใครที่มีปัญหาเส้นเอ็นแบบเรื้อรังแล้วไม่กินข้าวกล้องก็สมควรแล้ว ต้องสมน้ำหน้าอีกด้วย แล้วยังมีรายการอาหารอื่นๆที่ช่วยบำรุงเส้นเอ็นอีกหรือไม่ มีครับ เช่น..............
นมธัญพืช
ประโยชน์ ช่วยฟื้นฟูกระดูก เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ ผิวพรรณ ความแข็งแรงของเม็ดเลือด ควบคุมแคลเซียมในเลือดให้สมดุล บำรุงไต เพิ่มฮอร์โมนเพศในวัยทอง ผู้ที่เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูงมานานจนร่างกายอ่อนเพลียง่าย ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับ ถุงน้ำดี ไต ลำไส้ และผู้ที่ดื่มนมวัวแล้วปวดมวนท้อง ท้องเสีย
ประกอบด้วย ข้าวกล้องเหลืองหรือข้าวซ้อมมือ 1 ส่วน , เม็ดบัวแห้งหรือสด 1 ส่วน , ลูกเดือย 1 ส่วน
วิธีทำ แช่เม็ดบัวและลูกเดือยด้วยน้ำเกลือ (20 นาที) แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด ใส่น้ำปริมาณท่วมพอดี ต้มด้วยไฟแรงจนเดือดแล้วต้มต่อไปเรื่อย ๆ ด้วยไฟที่แรงเท่าเดิมจนสุก จะช่วยให้ไม่เหนียวติดหม้อ ค่อย ๆ เจือน้ำสะอาดผสมลงไปเพื่อลดอุณหภูมิ แล้วจึงนำไปปั่นกับข้าวกล้องที่หุงสุกแล้ว ปั่นพรืดแรกหยุดแล้วปั่นอีกพรืดก็หยุดได้ ต้มน้ำให้เดือดรอไว้ แล้วเทสิ่งที่ปั่นไว้ลงไป จะได้ไม่ติดก้นหม้อคนไปเรื่อยๆ จนเดือด ยกลงมาดื่ม
ถั่วห้าสี
เครื่องปรุง ถั่วดำ 1 ขีด , ถั่วเขียว 1 ขีด , ถั่วแดง 1 ขีด , ถั่วขาว 1 ขีด , ถั่วเหลือง 1 ขีด นำถั่วทั้ง 5 อย่างไปคั่วให้สุกก่อนแล้วแช่น้ำรวมกัน ล้างให้สะอาด พักไว้……ลูกเดือย 1 ขีด ล้างให้สะอาด แล้วต้มให้สุก พักไว้ เม็ดบัว 1 ขีด ล้างให้สะอาด ต้มให้สุก พักไว้ รากบัว 1 ขีด ปอกเปลือกล้างให้สะอาด ต้มให้สุก พักไว้ มันเทศ 1 หัว ปอกเปลือกล้างให้สะอาด ต้มให้สุก พักไว้
วิธีทำ นำเครื่องปรุงทั้งหมดมารวมกัน แล้วปั่นให้ละเอียด ต้มในหม้อใบใหญ่ ใส่น้ำมากๆ กรองเอากากออก นำน้ำที่ได้ไปต้มให้เดือด เติมน้ำตาลทรายแดงเล็กน้อย หรือจะไม่ใส่ก็ได้ รับประทานได้เลย
สรรพคุณ - บำรุงกระดูก เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ
- ช่วยลดน้ำหนัก
- ผิวพรรณสดใส
..........โดยทั่วไปอาหารที่ช่วยบำรุงเส้นเอ็นซึ่งเป็นอวัยวะในกลุ่มธาตุไม้ ก็คือ อาหารที่มีสีเขียวๆ ทั้งหลาย เช่น ผักใบเขียวต่างๆ ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักโขม ตำลึง ถั่วฝักยาว ผลอโวกาโด กะหล่ำปลีเขียว บวบ หน่อไม้ฝรั่ง ถั่วพู ขึ้นฉ่าย กุ้ยช่าย ชะอม ใบชะพลู สะตอ ใบทองหลาง ใบย่านาง อ่อมแซ่บ ฯลฯ เยอะแยะเลยครับ
เวลาที่เรามีปัญหาเส้นเอ็นอักเสบเรื้อรัง แล้วเบื่อที่จะกินยาแผนปัจจุบัน ก็มีวิธีให้เลือกใช้สมุนไพรรักษาการอักเสบได้ผลดีๆเช่นเดียวกัน หรือจะเลือกกินเข้าไปเสริมการรักษาแบบแผนปัจจุบันก็ได้นะครับ ไม่ผิดกติกา เพราะมันก็ถือเป็นอาหารอย่างหนึ่งเช่นกัน
..........การใช้สมุนไพรเป็นยาออกฤทธิ์ต้านการอักเสบตามระดับความรุนแรงจากน้อยไปมาก
ระดับที่ 1 น้ำผึ้ง + น้ำผลไม้รสเปรี้ยว (บำรุงเลือด )
ระดับที่ 2 น้ำผึ้ง (3 ช้อนโต๊ะ) + น้ำผลไม้รสเปรี้ยว (1 ลูก) + กระเทียม (5 กลีบ) + พริกไทยดำ (5 เม็ด)
ระดับที่ 3 บอระเพ็ด (ขม) + ไพล (ร้อน) + น้ำผึ้ง (ประสาน)
ระดับที่ 4 หัวน้ำหมักชีวภาพ (เอ็นไซม์) แบบเข้มข้น ( หมักไว้ 6 ปีขึ้นไป ) + บอระเพ็ด + ไพล + น้ำผึ้ง
ราคาพิเศษ 117 บาท จาก 190 บาท สั่งซื้อ!!! |
Khaolaor Turmeric Tablet Tra Dokwhan ขมิ้นชันชนิดเม็ด
(ต้านอักเสบ แก้ปวดข้อเข่า บรรเทากรดไหลย้อน ท้องอืด ท้องเฟ้อ) บรรจุ 100 เม็ด
ข้าวกล้องของดีเพื่อสุขภาพ
"ข้าวกล้องมีประโยชน์ทำให้ร่างกายแข็งแรง ข้าวขาวเม็ดสวยแต่เขาเอาของดีออกไป หมดแล้ว มีคนบอกว่าคนจนกินข้าวกล้อง เรากินข้าวกล้องทุกวัน เรานี่แหละเป็นคนจน" พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ราคาพิเศษ 99 บาท สั่งซื้อ!!!ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ Rice berry บรรจุ 1 กก. /ลัง (ตราหอมผกา)(สินค้าอัดสุญญากาศ 1 กก.) ปลูกด้วยระบบ GAP |
การกินข้าวกล้องเป็นประจำทุกวัน จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา โรคโลหิตจาง กรรมวิธีการหุงข้าวกล้องก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แต่ถ้าใครหุงไม่เป็นอาจทำให้ข้าวแข็งไม่น่ารับประทาน พลอย ทำให้ไม่อยากทานข้าวกล้องไปเสียอีก วิธีง่ายๆ เลยคือเริ่มจาก การเก็บสิ่งแปลกปลอมออกเสียก่อน และควรซาวข้าวเพียงครั้ง เดียวเพื่อไม่ให้สูญเสียวิตามินไปกับน้ำซาวข้าว
ในการหุงข้าวกล้องนั้น ต้องใส่น้ำในปริมาณที่มากกว่าการหุงข้าว ขาวเพราะข้าวกล้องมีเยื่อหุ้มเมล็ด การดูดซึมน้ำจะยากกว่าจึงต้อง ใช้เวลาหุงนาน แต่เพื่อเป็นการประหยัดเวลาควรจะแช่ข้าวกล้อง ก่อนหุงประมาณ 5-10 นาที ข้าวกล้องที่หุงแล้วจะได้นุ่มหอมน่ารับ ประทาน
การรับประทานข้าวกล้องนั้น สำหรับผู้ที่รับประทานใหม่ๆ อาจจะ ไม่เคยชิน รู้สึกฝืดคอแต่หากรับประทานไประยะหนึ่งจะรู้สึกว่า ข้าวกล้องหอม ยิ่งเคี้ยวนานๆ ก็จะได้รสชาติหวานอร่อย ได้รส ชาติมากกว่าข้าวขาว
เคล็ดลับในการรับประทานข้าวกล้องอีกประการหนึ่งที่อยากจะ แนะนำคือ ควรรับประทานขณะที่ยังอุ่น เพราะข้าวจะนุ่มและ ควรรับประทานข้าวกล้องที่สุกแล้วให้หมด ในมื้ออาหารนั้น เพราะข้าวกล้องจะบูดเสียได้ง่ายกว่าข้าวขาวทั่วไป